ﯼ
surah.translation
.
من تأليف:
مجموعة من جمعية خريجي الجامعات والمعاهد بتايلاند
.
ﰡ
ﮢﮣ
ﰀ
[79.1] ขอสาบานด้วย (มลาอิกะฮฺ) ผู้ฉุดกระชาก (วิญญาณของผู้ปฏิเสธศรัทธา) อย่างแรง
ﮥﮦ
ﰁ
[79.2] ขอสาบานด้วย (มลาอิกะฮฺ) ผู้ชัก (วิญญาณของผู้ศรัทธา) อย่างแผ่วเบา
ﮨﮩ
ﰂ
[79.3] ขอสาบานด้วย (มลาอิกะฮฺ) ที่แหวกว่ายในท้องนภากาศ
ﮫﮬ
ﰃ
[79.4] แล้วพวกเขา (มลาอิกะฮฺ) ผู้รีบรุดหน้าไปอย่างว่องไว
ﮮﮯ
ﰄ
[79.5] แล้วพวกเขา (มลาอิกะฮฺ) ผู้บริหารกิจการ
[79.6] วันซึ่งการเป่าสังข์ครั้งแรกทำให้สั่นสะเทือน
ﯖﯗ
ﰆ
[79.7] การเป่าสังข์ครั้งสองจะติดตามมา
[79.8] ในวันนั้นดวงจิตทั้งหลายจะตระหนก
ﯝﯞ
ﰈ
[79.9] สายตาของพวกเขาจะละห้อย
[79.10] พวกเขาจะกล่าวว่า พวกเราจะถูกให้กลับไปอยู่ในสภาพเดิมอีกกระนั้นหรือ
[79.11] เมื่อเราได้กลายเป็นกระดูกที่ผุแล้วกระนั้นหรือ
[79.12] พวกเขากล่าวว่า ถ้าเป็นเช่นนั้นก็เป็นการกลับไปที่ขาดทุน
[79.13] ความจริงมันเป็นเพียงเสียงก้อนครั้งเดียวเท่านั้น
[79.14] แล้วเมื่อนั้นพวกเขาก็จะออกมายังที่ราบโล่ง
[79.15] เรื่องราวของมูซาได้มาถึงเจ้าแล้วมิใช่หรือ
[79.16] ขณะที่พระเจ้าของเขาทรงเรียกเขาที่หว่างหุบเขาฏุวาอันบริสุทธิ์
[79.17] เจ้าจงไปหาฟิรเอานฺ เพราะเขาละเมิดฝ่าฝืน
[79.18] แล้วจงกล่าวว่า ท่านประสงค์จะซักฟอกไหม
[79.19] และจะให้ฉันนำท่านไปสู่พระเจ้าของท่านไหม เพื่อท่านจะได้ยำเกรง
[79.20] แล้วมูซาก็แสดงให้เขาเห็นสัญญาณอันยิ่งใหญ่
ﭧﭨ
ﰔ
[79.21] แต่เขาได้ปฏิเสธและดื้อรั้น
[79.22] แล้วเขาก็ผินหลังกลับหนีออกไปอย่างเร็ว
ﭮﭯ
ﰖ
[79.23] แล้วเขาก็ได้เรียกชุมนุม แล้วประกาศออกไป
[79.24] แล้วกล่าวว่า ฉันคือพระเจ้าสูงสุดของพวกท่าน
[79.25] ดังนั้นอัลลอฮ์จึงคร่าเขาเป็นการลงโทษที่เป็นแบบอย่างทั้งในปรโลกและในโลกนี้
[79.26] แท้จริงในการนี้ย่อมเป็นข้อเตือนใจสำหรับผู้ยำเกรงของอัลลอฮ์
[79.27] พวกเจ้าลำบากยิ่งในการสร้างกระนั้นหรือ หรือว่าชั้นฟ้าที่พระองค์ทรงสร้างมัน
[79.28] พระองค์ทรงยกให้มันสูงขึ้นแล้วทรง ทำให้มันสมบูรณ์
[79.29] และทรงทำให้กลางคืนของมันมืดทึบ และทรงทำให้ความสว่างของมันออกมา
[79.30] และหลังจากนั้นทรงทำให้แผ่นดินเป็นพื้นราบเรียบ
[79.31] ทรงให้ออกมาจากแผ่นดินเป็นน้ำของมัน และทุ่งหญ้าของมัน
ﮞﮟ
ﰟ
[79.32] ส่วนเทือกเขานั้นทรงทำให้มันมั่นคง
[79.33] ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยยังชีพสำหรับพวกเจ้า และสำหรับปศุสัตว์ของพวกเจ้า
[79.34] ดังนั้นเมื่อความหายนะอันใหญ่หลวงได้เกิดขึ้น
[79.35] เป็นวันที่มนุษย์จะนึกถึงสิ่งที่เขาได้ขวนขวายไว้
[79.36] และนรกหรือเปลวไฟจะถูกเผยให้แก่ผู้ที่มองมัน
[79.37] ส่วนผู้ที่ละเมิดฝ่าฝืนนั้น
[79.38] และเขาได้เลือกเอาการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้
[79.39] ดังนั้นนรกหรือเปลวไฟคือที่พำนักของเขา
[79.40] และส่วนผู้ที่หวาดหวั่นต่อการยืนเบื้องหน้าพระเจ้าของเขา และได้หน่วงเหนี่ยวจิตใจจากกิเลสต่ำ
[79.41] ดังนั้นสวนสวรรค์ก็จะเป็นที่พำนักของเขา
[79.42] พวกเขาจะถามเจ้าถึงยามอวสาน (วันกิยามะฮฺ) ว่า เมื่อใดเล่ามันจะเกิดขึ้น
[79.43] ด้วยเหตุอันใดเจ้าจึงชอบกล่าวถึงมันนัก
[79.44] ยังพระเจ้าของเจ้าเท่านั้นคือวาระสุดท้ายของมัน
[79.45] ความจริงเจ้าเป็นแต่เพียงผู้ตักเตือนแก่คนที่หวาดหวั่นมัน (วันกิยามะฮฺ) เท่านั้น
[79.46] วันที่พวกเขาจะเห็นมัน (วันกิยามะฮฺ) ประหนึ่งว่าพวกเขามิได้พำนักอยู่โลกนี้เว้นแต่เพียงชั่วครู่หนึ่งของยามเย็นและยามเช้าของมันเท่านั้น